วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำผักผลไม้สดรักษาโรค ตอนที่ 5

คืนความสดชื่นและปรับอุณหภูมิร่างกายให้เย็นลง : ดื่มน้ำแตงโม น้ำสับปะรด และ น้ำแอปเปิ้ล


จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ : ดื่มน้ำผึ้ง น้ำมะพร้าวอ่อน น้ำมะละกอ น้ำทับทิม น้ำสับปะรด และน้ำ
กระเทียม



ดวงตา : นอกจากวิตามินเอที่มีความจำเป็นต่อดวงตาแล้ว วิตามินอื่นๆก็มีความสำคัญเช่นกัน จึงควรดื่มน้ำผักผลไม้ที่มีวิตามินและแคลเซียม ดื่มน้ำแครอทผสมน้ำผักประเภทต่างๆ  และลดการบริโภคน้ำตาล

ดีซ่าน : ดื่มน้ำมะระขี้นกในตอนเช้าขณะท้องว่าง ดื่มน้ำฝักเขียวผสมน้ำแครอท น้ำบีทรูท น้ำแตงกวา น้ำ
แอปเปิ้ล น้ำมะละกอ ผสมน้ำขมิ้นเขียว น้ำองุ่น และน้ำส้ม การเคี้ยวอ้อยก็มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคนี้ ควรบริโภคอาหารที่ปราศจากไขมันและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ตกเลือดหรือเลือดไหลไม่หยุด : ดื่มน้ำแอปเปิ้ล น้ำมะนาว และน้ำแครอท



ติดเชื้อจากการสัมผัส : ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาขณะท้องว่าง  ดื่มน้ำ 1 แก้วผสมน้ำกระเทียมและน้ำหอมใหญ่อย่างละ 1 ช้อนชา หรือน้ำแครอทผสมน้ำส้ม

ท้องผูก : รับประทานผักและผลไม้สดหรือดื่มน้ำผักผลไม้สด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฝึกนิสัยการขับถ่ายให้เป็นปกติ ดื่มน้ำผักโขมและน้ำแครอท หรือดื่มน้ำฝรั่งผสมน้ำแตงกวาและน้ำแอปเปิ้ล บางรายดื่มน้ำมะเดื่อ น้ำฝรั่งและน้ำส้ม

ท้องร่วง : ดื่มน้ำแอปเปิ้ล น้ำกระเทียม น้ำขมิ้นเขียว น้ำมะพร้าวอ่อน น้ำบีทรูท หรือน้ำสับปะรด และพักผ่อนให้เพียงพอ

นอนไม่หลับ : ดื่มน้ำแอปเปิ้ลผสมน้ำฝรั่ง น้ำมันฝรั่งหรือน้ำแครอทผสมน้ำผักโขม หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผักผลไม้ใดๆหลังหกโมงเย็น

นิ่วในไต : ดื่มน้ำแครอท น้ำแตงกวา น้ำบีทรูท น้ำแอปเปิ้ล และน้ำฟักทอง น้ำมะพร้าวอ่อนก็มีประโยชน์ในการรักษาโรคนี้ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผักประเภทใบ การดื่มน้ำผ่านแม่เหล็กมีผลดียิ่งต่อโรคนิ่วในไต


อ่านต่อใน >> น้ำผักผลไม้สดรักษาโรค ตอนที่ 6


แหล่งอ้างอิง
- หนังสือน้ำผักผลไม้รักษาโรค (ดร.ไดเรน กาลา เขียน , พรพรรณ ศรีคัฒนพรหม แปล)
- รูปภาพสวยๆจากโลกไซเบอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น